เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมาสื่อข่าวดังรายงานว่า เจ้าหน้าที่ อส.พม. น.ส.สงกรานต์ ฤทธิโย และนายเกียรติศักดิ์ ศรีหนองโคตร เข้าเยี่ยม ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 4 ขวบ ลูกชายนางจิราภรณ์ (สงวนนามสกุล) ชาวบ้าน ต.นาทับไฮ อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย จนทราบว่าด.ช.เอ มีพี่ชายอีกหนึ่งคน หลบอยู่ในห้องนอนไม่ยอมออกจากห้อง ไม่ยอมคุยกับใครนานกว่า 3 ปี
เมื่อทราบเหตุการณ์ดังกล่าว อส.พม.จึงประสานไปที่ รพ.สต.นาทับไฮ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนวาปี เข้าช่วยเหลือเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย เจ้าหน้าที่ รพ.สต. 3 คน รุดเข้าตรวจสอบทราบชื่อ เด็กชายบี (นามสมมติ) นำตัวเด็กชายดังกล่าวออกมานอกห้องอย่างทุลักทุเล เพราะเด็กไม่ยอมออกมาด้านนอกขัดขืนตลอดเวลา
เมื่อเจ้าหน้าที่ รพ.สต.ตรวจร่างกายและสุขภาพแล้ว เด็กก็กลับเข้าห้องเหมือนเดิม ทราบเบื้องต้นว่าอส.พม.ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการช่วยเหลือและหาแนวทางดำเนินการในขั้นต่อไป
ต่อมา พบกับ นางจิราภรณ์ แม่ด.ช.เอ และด.ช.บี โดยแม่เล่าให้ฟังว่า ตัวแม่เลิกกับสามีช่วงเดือนม.ค.63 แต่ยังไม่ได้หย่าขาด ตนมีลูก 4 คน คนโตเป็นผู้หญิง อายุ 23 ปี มีครอบครัวไปประกอบอาชีพที่ต่างจังหวัด คนที่ 2 เป็นผู้หญิง อายุ 20 ปี มีครอบครัวอยู่กับครอบครัวที่ตัวจังหวัดหนองคาย คนที่ 3 คือน้องบี อายุ 15 ปี คนที่ 4 น้องเล็กอายุ 4 ขวบ
นางจิราภรณ์ กล่าวว่า ช่วง ป.5 ลูกไม่อยากไปโรงเรียน เพราะเพื่อนชอบล้อว่าเป็นกะเทยและโดนเพื่อนทำร้าย จากนั้นน้องก็ไม่เล่นกับใครเลย ช่วงป.5 ก็เริ่มขาดโรงเรียนประจำ ขาดบ่อย ไม่ค่อยได้ไปเรียน ถึงเวลาสอบก็สอบได้ที่หนึ่ง แต่คุณครูบอกแม่ว่า น้องมาเรียนน้อย วันเวลาเรียนไม่ถึง น้องต้องซ้ำชั้น
พอช่วงเปิดเทอมน้องก็ไม่ไปเรียนอีกเลย ไม่ยอมอาบน้ำ ไม่ยอมคุยกับใคร ไว้ผมยาว ไม่อาบน้ำอยู่ 1 ปีเต็ม พอรู้ว่าไม่ได้ไปโรงเรียนแล้ว น้องถึงยอมออกนอกห้อง มาอาบน้ำมาแต่งตัว มาส่องกระจก แม่เลยตัดผมให้ ช่วงน้องเก็บตัวครั้งแรกอายุน่าจะ 12 ปี เข้าปีนี้เป็นปีที่ 4 แล้ว ที่น้องเก็บตัว ที่ผ่านมาแม่ก็ไม่เคยไปแจ้งใครหน่วยงานไหน นางจิราภรณ์ กล่าว
ส่วนน้องออกมานอกห้องบ้าง มาให้อาหารหมาแมว มาเล่นกับน้องชายมาจับแขนน้อง แต่จะไม่พูด ใครมาก็จะไม่พูด ถามอะไรก็ไม่พูด และไม่มีพฤติกรรมก้าวร้าว เป็นเด็กใจดี เป็นเด็กฉลาดมาก บางครั้งน้องก็ทำกับข้าว
ส่วนตนมีอาชีพเย็บผ้าพอเลี้ยงตัวเอง บางครั้งเงินก็ไม่พอ ลูกสาวก็ส่งมาให้ใช้บ้างก็ไม่อยากไปรบกวนลูก เพราะเขามีครอบครัวแล้ว แม่อยากให้ลูกกลับมาเรียนกลับมาเป็นเหมือนเดิมจะได้ดูแลตัวเองได้ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปรักษา ตอนนี้ 3-4 วัน ตนก็จะอาบน้ำให้ครั้งหนึ่ง
ล่าสุด นายธงชัย บุตรวงษ์ นายอำเภอรัตนวาปี พร้อมด้วย พ.จ.อ.วัชรินทร์ โชติพงษ์ ปลัดอาวุโสอำเภอรัตนวาปี, นางอุบล ไชยเสนา ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลนาทับไฮ, น.ส.ศรีวรรณ กิ่งใหญ่ หัวหน้าสำนักปลัด ต.นาทับไฮ, เจ้าหน้าที่ พมจ.หนองคาย, อส.พม.อ.รัตนวาปี,
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนวาปี, เจ้าหน้าที่ รพ.สต.นาทับไฮ, เจ้าหน้าที่ รพ.รัตนวาปี และทีมแพทย์ ผู้ใหญ่บ้าน อสม.ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือน้องบี ซึ่งวันนี้น้องบี เดินออกมาจากห้องเองโดยไม่ได้บังคับ และขึ้นรถฉุกเฉินของ อบต.นาทับไฮเอง
โดยทีมแพทย์ให้นำน้องบี ไปประเมินอาการทางจิต และสุขภาพโดยรวม ที่รพ.รัตนวาปีก่อน ส่วนด้านพมจ.หนองคาย จะช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัย อาชีพ และจะประสาน อสม.อบต.เข้าดูแลอีกชั้นหนึ่ง
จาการสอบถาม นางน้อยและนางไหม เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กับบ้านน้องบี บอกว่าตัวน้องที่ไม่มีประวัติเพราะไม่เคยไปรักษา และไม่เคยไปแจ้งหน่วยงานใด เด็กจะอยู่ในโลกส่วนตัว น้องเป็นคนรักสัตว์ ทำกับข้าวเป็นหากินเอง แต่ปัญหาคือแม่ไม่ค่อยคุยกับลูก ตัวแม่เองก็ไม่ค่อยมีเวลาให้ลูกเลยเป็นแบบนี้สักระยะ พักหลังน้องติดโทรศัพท์ เลยไม่มีเพื่อน เพราะเพื่อนก็ไปโรงเรียนหมด
ญาติบ้านติดกัน บอกว่าเด็กน่าจะมีปัญหาตอนที่พ่อหนีไป เด็กอาจคิดมากน่าจะคิดถึงพ่อ เพราะช่วงนั้นก็ ป.4 หรือ ป.5 ไม่ไปโรงเรียนเลย แต่กับเพื่อนก็จะคุยด้วยเป็นบางคน ช่วงแรกก็ตัดผมอยู่ ช่วงหลังๆ ไม่ออกมาเล่นกับใครเลย คนถามก็ไม่คุยด้วย เมื่อก่อนก็ไปไร่ไปนาปกติ ไปกินข้าวที่ทุ่งนาด้วย ช่วงลูกชายที่บ้านขึ้น ม.1 ก็ตีตัวออกห่างจากทุกคน เพื่อนบ้าน กล่าว
เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมาสื่อข่าวดังรายงานว่า เจ้าหน้าที่ อส.พม. น.ส.สงกรานต์ ฤทธิโย และนายเกียรติศักดิ์ ศรีหนองโคตร เข้าเยี่ยม ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 4 ขวบ ลูกชายนางจิราภรณ์ (สงวนนามสกุล) ชาวบ้าน ต.นาทับไฮ อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย จนทราบว่าด.ช.เอ มีพี่ชายอีกหนึ่งคน หลบอยู่ในห้องนอนไม่ยอมออกจากห้อง ไม่ยอมคุยกับใครนานกว่า 3 ปี
เมื่อทราบเหตุการณ์ดังกล่าว อส.พม.จึงประสานไปที่ รพ.สต.นาทับไฮ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนวาปี เข้าช่วยเหลือเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย เจ้าหน้าที่ รพ.สต. 3 คน รุดเข้าตรวจสอบทราบชื่อ เด็กชายบี (นามสมมติ) นำตัวเด็กชายดังกล่าวออกมานอกห้องอย่างทุลักทุเล เพราะเด็กไม่ยอมออกมาด้านนอกขัดขืนตลอดเวลา
เมื่อเจ้าหน้าที่ รพ.สต.ตรวจร่างกายและสุขภาพแล้ว เด็กก็กลับเข้าห้องเหมือนเดิม ทราบเบื้องต้นว่าอส.พม.ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการช่วยเหลือและหาแนวทางดำเนินการในขั้นต่อไป
ต่อมา พบกับ นางจิราภรณ์ แม่ด.ช.เอ และด.ช.บี โดยแม่เล่าให้ฟังว่า ตัวแม่เลิกกับสามีช่วงเดือนม.ค.63 แต่ยังไม่ได้หย่าขาด ตนมีลูก 4 คน คนโตเป็นผู้หญิง อายุ 23 ปี มีครอบครัวไปประกอบอาชีพที่ต่างจังหวัด คนที่ 2 เป็นผู้หญิง อายุ 20 ปี มีครอบครัวอยู่กับครอบครัวที่ตัวจังหวัดหนองคาย คนที่ 3 คือน้องบี อายุ 15 ปี คนที่ 4 น้องเล็กอายุ 4 ขวบ
นางจิราภรณ์ กล่าวว่า ช่วง ป.5 ลูกไม่อยากไปโรงเรียน เพราะเพื่อนชอบล้อว่าเป็นกะเทยและโดนเพื่อนทำร้าย จากนั้นน้องก็ไม่เล่นกับใครเลย ช่วงป.5 ก็เริ่มขาดโรงเรียนประจำ ขาดบ่อย ไม่ค่อยได้ไปเรียน ถึงเวลาสอบก็สอบได้ที่หนึ่ง แต่คุณครูบอกแม่ว่า น้องมาเรียนน้อย วันเวลาเรียนไม่ถึง น้องต้องซ้ำชั้น
พอช่วงเปิดเทอมน้องก็ไม่ไปเรียนอีกเลย ไม่ยอมอาบน้ำ ไม่ยอมคุยกับใคร ไว้ผมยาว ไม่อาบน้ำอยู่ 1 ปีเต็ม พอรู้ว่าไม่ได้ไปโรงเรียนแล้ว น้องถึงยอมออกนอกห้อง มาอาบน้ำมาแต่งตัว มาส่องกระจก แม่เลยตัดผมให้ ช่วงน้องเก็บตัวครั้งแรกอายุน่าจะ 12 ปี เข้าปีนี้เป็นปีที่ 4 แล้ว ที่น้องเก็บตัว ที่ผ่านมาแม่ก็ไม่เคยไปแจ้งใครหน่วยงานไหน นางจิราภรณ์ กล่าว
ส่วนน้องออกมานอกห้องบ้าง มาให้อาหารหมาแมว มาเล่นกับน้องชายมาจับแขนน้อง แต่จะไม่พูด ใครมาก็จะไม่พูด ถามอะไรก็ไม่พูด และไม่มีพฤติกรรมก้าวร้าว เป็นเด็กใจดี เป็นเด็กฉลาดมาก บางครั้งน้องก็ทำกับข้าว
ส่วนตนมีอาชีพเย็บผ้าพอเลี้ยงตัวเอง บางครั้งเงินก็ไม่พอ ลูกสาวก็ส่งมาให้ใช้บ้างก็ไม่อยากไปรบกวนลูก เพราะเขามีครอบครัวแล้ว แม่อยากให้ลูกกลับมาเรียนกลับมาเป็นเหมือนเดิมจะได้ดูแลตัวเองได้ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปรักษา ตอนนี้ 3-4 วัน ตนก็จะอาบน้ำให้ครั้งหนึ่ง
ล่าสุด นายธงชัย บุตรวงษ์ นายอำเภอรัตนวาปี พร้อมด้วย พ.จ.อ.วัชรินทร์ โชติพงษ์ ปลัดอาวุโสอำเภอรัตนวาปี, นางอุบล ไชยเสนา ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลนาทับไฮ, น.ส.ศรีวรรณ กิ่งใหญ่ หัวหน้าสำนักปลัด ต.นาทับไฮ, เจ้าหน้าที่ พมจ.หนองคาย, อส.พม.อ.รัตนวาปี,
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนวาปี, เจ้าหน้าที่ รพ.สต.นาทับไฮ, เจ้าหน้าที่ รพ.รัตนวาปี และทีมแพทย์ ผู้ใหญ่บ้าน อสม.ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือน้องบี ซึ่งวันนี้น้องบี เดินออกมาจากห้องเองโดยไม่ได้บังคับ และขึ้นรถฉุกเฉินของ อบต.นาทับไฮเอง
โดยทีมแพทย์ให้นำน้องบี ไปประเมินอาการทางจิต และสุขภาพโดยรวม ที่รพ.รัตนวาปีก่อน ส่วนด้านพมจ.หนองคาย จะช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัย อาชีพ และจะประสาน อสม.อบต.เข้าดูแลอีกชั้นหนึ่ง
จาการสอบถาม นางน้อยและนางไหม เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กับบ้านน้องบี บอกว่าตัวน้องที่ไม่มีประวัติเพราะไม่เคยไปรักษา และไม่เคยไปแจ้งหน่วยงานใด เด็กจะอยู่ในโลกส่วนตัว น้องเป็นคนรักสัตว์ ทำกับข้าวเป็นหากินเอง แต่ปัญหาคือแม่ไม่ค่อยคุยกับลูก ตัวแม่เองก็ไม่ค่อยมีเวลาให้ลูกเลยเป็นแบบนี้สักระยะ พักหลังน้องติดโทรศัพท์ เลยไม่มีเพื่อน เพราะเพื่อนก็ไปโรงเรียนหมด
ญาติบ้านติดกัน บอกว่าเด็กน่าจะมีปัญหาตอนที่พ่อหนีไป เด็กอาจคิดมากน่าจะคิดถึงพ่อ เพราะช่วงนั้นก็ ป.4 หรือ ป.5 ไม่ไปโรงเรียนเลย แต่กับเพื่อนก็จะคุยด้วยเป็นบางคน ช่วงแรกก็ตัดผมอยู่ ช่วงหลังๆ ไม่ออกมาเล่นกับใครเลย คนถามก็ไม่คุยด้วย เมื่อก่อนก็ไปไร่ไปนาปกติ ไปกินข้าวที่ทุ่งนาด้วย ช่วงลูกชายที่บ้านขึ้น ม.1 ก็ตีตัวออกห่างจากทุกคน เพื่อนบ้าน กล่าว