วันพุธที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2566

ย้อมผมชมพู ใส่ชุดไปรเวทไปรร.เปิดโพสต์ ‘น้องหยก’ ทำคอมเมนต์แตก แห่ถามทำแบบนี้เหมาะสมหรือไม่

“หยก” ผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 อายุน้อยที่สุดเพียง 15 ปี ถูกให้ออกจากโรงเรียนแล้ว หลังทางโรงเรียนอ้างว่า

“ติดต่อผู้ปกครองของน้องไม่ได้” ล่าสุด หลังกลุ่มทะลุวังกดดันหน้าโรงเรียนกว่า 3 ชั่วโมง หยกได้ปีนรั้วโรงเรียน เพื่อยืนกรานขอเข้าเรียนหนังสือ

“ทางโรงเรียน ขู่ว่า ถ้าเอาพ่อแม่ของน้องมาไม่ได้ ก็ไล่ออก” บุ้ง ย้อนเหตุการณ์ที่ได้รับโทรศัพท์จากทางโรงเรียน เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2566 ที่ผ่านมา

หยก ได้โพสต์ภาพตัวเองในชุดไปรเวท และผมสีชมพู ที่เธอย้อมสีผมมาหลายสัปดาห์แล้ว เพื่อเรียกร้องสิทธิเสรีภาพในรั้วโรงเรียน เพราะ “การแต่งกายและทรงผมมันไม่ใช่ตัวชี้วัดผลการเรียนของเรา”

“เราคิดว่าการแต่งกายและทรงผมมันไม่ใช่ตัวชี้วัดผลการเรียนของเรา สิ่งที่เป็นปัญหาคือโครงสร้างของการศึกษาไทยมากกว่า เราอยากให้มีเสรีทรงผมและการแต่งกายภายในโรงเรียนทุกโรงเรียน ไม่ใช่แค่โรงเรียนเอกชน เหตุใดเราจึงต้องจ่ายแพงกว่าเพื่อแลกกับอิสรภาพและสิทธิพื้นฐานในเนื้อตัวร่างกายของเราที่มีติดตัวมาตั้งแต่เกิด”

“การปลูกฝังให้เยาวชนเข้าใจเรื่องสิทธิเสรีภาพต้องเริ่มตั้งแต่ในโรงเรียน”

ทำเอาชาวโซเชียลแห่มาคอมเม้นท์มากมายเช่น ออกแนวเอาแต่ใจแล้วนะคะ หนูต้องมีวิธีที่ดีกว่านี้ โลกไม่ได้หมุนรอบตัวเรา สิ่งที่หนูควรทำคือ ล่ารายชื่อเพื่อนๆในโรงเรียนให้เกินครึ่งแล้วไปหาครู อาจมีบางวันที่โรงเรียนโอเครให้ใส่ เราต้องอยู่ระหว่างตรงกลาง เพราะสังคมไม่ได้มีแค่เราอยู่ ทุกที่มีกฏกติกา อยากให้คนอื่นเคารพความเป็นเรา เราก็ต้องเคารพสถานที่ ผู้อื่นด้วยนะคะ

ความกล้าที่จะแสดงจุดยืน นำเสนอ เป็นสิ่งที่ทำได้ แต่จะสรุปเหมารวม ความคิดคนอื่นให้เหมือนความคิดตัวเองไม่ได้ค่ะ เกิดเป็นคน ต้องมีระเบียบวินัย กติกาการอยู่ร่วมกัน โลกมีมนุษย์หลากหลายชาติพันธุ์ หลากหลายสังคม ค่อยๆโต ค่อยๆ เรียนรู้เนอะ