วันอาทิตย์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2566

เป็นเหตุการ์ที่ มณฑลซูโจว เมืองจีน เมื่อลุงแก่ๆท่านหนึ่ง นั่งขายองุ่นถ่ามกลางฝนตกรินๆ ขายได้ไม่ถึง 10 พวง หนุ่งคนหนึ่งเห็นลุงแก่ๆนั่งหยิบองุ่นอย่าง ทะนุถนอม เพราะแกกลัวว่าองุ่นนั้น จะช้ำและจะขายไม่ออก ลุงเนื้อตัว เปรอะเปื้อนไปด้วยโคลน เพราะลุงต้องรีบไปเก็บองุ่นหลังบ้านอีก องุ่นของลุงไม่ได้สวยเหมือนเจ้าอื่นๆ เพราะแกปลูกกินเอง แถมแกยังขายตัดราคาเจ้าอื่นๆอีก ลุงขายกิโลกรัมละ 3 หยวน (ประมาณ 15 บาท) เท่านั้น

แต่ก็มีลูกค้าที่เป็นหญิงคนหนึ่งเดินเข้ามา แล้วพูดว่า… “องุ่นลูกก็เล็ก แถมเปรี้ยวจะตาย ยังจะกล้าขายแพงขนาดนี้อีกหรือ ลดให้หน่อย เดี๋ยวจะซื้อ”ลุงตอบกลับไปว่า “ลุงขายแค่โลละ 3 หยวนเองหนู ร้านอื่นขายโลละ 10 หยวน ไม่ซื้อก็ไม่เป็นไร” หญิงคนนั้นก็เดินหนีไป ลุงกลัวจะเสียโอกาส นานๆมีลูกค้ามาที จึงตะโกนไปว่า งั้นลุงตัดก้านทิ้งแล้วชั่งกิโลให้ใหม่เอาไหม? ลุงถึงกับทอนหายใจ เมื่อหญิงสาวดังกล่าวไม่หันกลับมามอง

เมื่อชายหนุ่ม ที่มาซื้อผักในตลาดเห็น องุ่นลุงขายไม่ออก จึงเดินเข้ามาถาม “ลุงผมขอเหมาหมดเลยนะ ผมดูแล้วองุ่นลุงก็ไม่ได้แย่นะ” คำพูดนี้ทำให้รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนในหน้ายับย่นของชายชรา แล้วพูดว่า พ่อหนุ่ม ถึงองุนลุงจะลูกเล็กและไม่สวยเหมือนเจ้าอื่น แต่องุนลุงไม่มียาฆ่าแมลงนะ

หลังชั่งน้ำหนักแล้ว ราคาทั้งหมดอยู่ที่ 10 หยวนกับอีก 5 เหมาโดยลุงคิดราคาแค่ 10 หยวนเท่านั้น แม้จะเป็นแค่การซื้อขายของชิ้นเล็กๆ ที่ราคาถูก แต่ความสุขที่ได้จากการเป็นผู้ให้และผู้รับนั้นไม่สามารถประเมินเป็นราคาได้เลย

เรื่องราวนี้ ถูกแชร์ไปอย่างแผร่หลาย ในสื่อโลกออนไลน์ของชาวจีน และมีคอมเม้นชื่นชมทั้งคู่

มันเป็นการ หยิบยื่นน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ให้เพื่อนมนุษย์