เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Tek Ja โพสต์เล่าเรื่องราวระทึกที่พบขณะเดินทางโดยเครื่องบินจากดอนเมือง-ตรัง กลับเกิดเหตุไม่คาดฝัน เมื่อบินถึงสนามบินตรังแล้ว แต่ไม่สามารถนำเครื่องลงจอดได้ถึงสองครั้ง จนต้องเปลี่ยนไปจอดที่สนามบินนานาชาติกระบี่แทน แต่ที่พีคคือสาเหตุที่ลงจอดไม่ได้รอบแรกเพราะ "สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย" และหลังจากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่ก็แจ้งข้อมูลว่า "ทางสนามบินตรังปฏิเสธการลงจอดเนื่องจากมีสุนัขในบริเวณจุดลงจอด" แถมสุดท้ายต้องเสียเงินเหมารถจาก จ.กระบี่ ไปที่ จ.ตรัง จนทำให้ผู้โดยสารต่างแปลกใจไปตาม ๆ กัน
โดยข้อความดังกล่าวระบุว่า ครั้งนี้เป็นเที่ยวบินในประเทศที่นานที่สุดในชีวิต โดยบินจากดอนเมือง-ตรัง เที่ยวบิน 07.35 น. ควรจะถึงตรังในเวลา 09.00 น. ขณะเครื่องกำลังแลนดิ่งลงสนามบินตรัง จู่ ๆ กัปตันก็บินขึ้นอีกครั้ง ผดส. ทั้งลำก็พากัน งง เพราะไม่มีการแจ้งอะไรเลย จนใกล้ถึงสนามบินนานาชาติกระบี่ ถึงมีเสียงประกาศบอกว่า "เพราะสภาพ จึงลงจอดที่ตรังไม่ได้" เมื่อถึงกระบี่ กัปตัน และแอร์แจ้งอีกครั้งว่า "ทางสนามบินตรังปฏิเสธการลงจอดเนื่องจากมีสุนัขในบริเวณจุดลงจอด" เลยต้องแวะมาเติมน้ำมันที่กระบี่ เนื่องจากเชื้อเพลิงไม่พอ
ตรงนี้ก็เริ่มงงว่าหมามายังไง เพราะตอนแรกแจ้งว่าเพราะสภาพอากาศไม่ดี จากนั้นประมาณ 50 นาที กัปตันก็บินกลับไปที่ตรังอีกครั้ง (ใช้เวลา 20 นาที) เหตุการณ์เดิมก็เกิดขึ้นอีกครั้ง (ครั้งนี้ที่ตรังเริ่มมีฝนตก) เเล้วกัปตันก็บินกลับมาที่กระบี่อีก โดยให้เหตุผลว่า "สนามบินตรังเป็นสนามบินเล็ก รันเวย์เล็ก และด้วยสภาพอากาศทำให้ลงจอดไม่ได้" ขอตัดสินใจก่อนว่าจะทำยังไงต่อ
11.20 น. ผู้โดยสารเริ่มไม่โอเคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเกินครึ่งรู้สึกเสียเวลา และรวมถึงเรื่องความปลอดภัย เลยขอลงที่สนามบินกระบี่แทน
12.20 น. ผู้โดยสารที่จะขอลงที่กระบี่กำลังทยอยลง แต่ในขณะเดียวกันก็ยังไม่มีทางออกอื่น ๆ ให้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนอกจากขออภัย เสิร์ฟน้ำและขนม คำถามคือ ที่ผ่านมาสายการบินลงจอดที่ตรังได้ยังไง เพราะขนาดสนามบินก็เท่าเดิมทุกวัน และจากการสังเกตสภาพอากาศก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น รวมถึงสายการบินจะรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไง เพราะบอกตามตรงว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันทำให้รู้สึกว่าสายการบินไม่มีความเป็นมืออาชีพเลย
13.00 น.สายการบินบอกว่า ถ้าบินกลับไปลงตรัง แล้วลงไม่ได้อีก จะต้องวนกลับไปที่ดอนเมืองเลย โดยที่ไม่สามารถบอกได้ว่าจะรับผิดชอบยังไง พอถามก็บอกให้ติดต่อกับทางเคาท์เตอร์ ตนจึงตัดสินใจลงที่กระบี่เเล้วหารค่าเหมารถตู้จาก จ.กระบี่ มา จ.ตรัง
เจ้าของโพสต์ยังชี้แจงเพิ่มเติมด้วยว่า บางคนอาจคิดว่าตนหรือผู้โดยสารคนอื่นต่อว่ากัปตัน หรือไม่สนเรื่องความปลอดภัย และชีวิต ทั้งหมดเป็นการเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่มีเจตนา หรือประโยคไหนที่เป็นการต่อว่ากัปตันและลูกเรือ นอกจากการถามหาวิธีการแก้ปัญหา และการรับผิดชอบจากสายการบิน