วันศุกร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2566

หลักฐานใหม่ เตรียมรื้อคดี!

‘แม่แตงโม’ ไม่ยอมจบ เผยชัดตัวการทำ ‘แตงโม’ จากไป

คุณแม๊’ ไม่จบ แจ้งกองปราบฯ จับ ‘คนสนิทแตงโม’ ในกลุ่มสปีทโบ๊ท หลังพบนำบัตรเครดิตแตงโมไปใช้ 3 ครั้ง หลังตกเรือ ช่วงระหว่างการค้นหาร่าง

พร้อมเตรียมร้องศาลรื้อคดีใหม่จาก ‘ประมาท’ เป็น ‘ฆาตกรรม’ เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 16 มิ.ย. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.

นางพนิดา ศิริยุทธโยธิน พร้อมทนายความ เดินทางมาที่กองบังคับการปราบปราม เพื่อแจ้งความดำเนินคดี กับ 1 ในผู้ต้องหาแก๊งสปีดโบ๊ท หลังพบข้อมูลว่า มีการนำบัตรเครดิตของแตงโม ลูกสาว ไปใช้รูดซื้อสินค้า หลังแตงโมตกเรือ เสียชีวิต

นางพนิดา เปิดเผยกับสื่อมวลชนก่อนแจ้งความกับพนักงานสอบสวนว่า ตนพบข้อมูลว่า 1 ในผู้ต้องหา ซึ่งเป็นคนสนิทของแตงโม นำบัตรเครดิตไปใช้ ในช่วงเวลาที่หน่วยกู้ภัยกำลังค้นหาร่าง

หลังแตงโมตกเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาถึง 3 ครั้ง ในรอบ 3 วัน อีกทั้งยังพบว่ามีการรับเงินจากกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุ ที่ยกผลประโยชน์ให้กับบุตรสาวบุญธรรม ซึ่งเป็นลูกสาวแท้ๆของผู้จัดการแตงโม (กระติก) มูลค่า 1 ล้านบาท

จากบริษัทประกันชีวิตแห่งหนึ่งไปแล้ว ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตนได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอรับส่วนแบ่งจากกรมธรรม์ในฐานะมารดา 50 % แต่ระหว่างคดีอยู่ในชั้นศาล ปรากฏว่ามารดาของบุตรบุญธรรม (กระติก) ได้รับเงินดังกล่าวไปแล้ว

นางพนิดา ระบุว่า กรณีการนำบัตรเครดิตของแตงโมไปรูดซื้อสินค้าหรือกระทำการใดๆ ไม่ควรเกิดขึ้น เพราะเป็นทรัพย์สินส่วนบุคคล พร้อมตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมบัตรเครดิตไปอยู่ในมือของผู้ต้องหาได้

และที่สำคัญการรูดใช้บัตร เป็นช่วงที่แตงโมตกเรือไปแล้ว อีกทั้งกรณีการเซ็นรับเงินกรมธรรม์ประกันชีวิต ทั้งที่คดียังอยู่ในชั้นศาล และยังเป็นข้อพิพาทอยู่ก็ไม่ควรเกิดขึ้น จึงปรึกษากับทนายความ

และเห็นชอบให้นำเรื่องดังกล่าวมาแจ้งความดำเนินคดีที่กองปราบปราม นางพนิดายังระบุว่า ได้พบหลักฐานใหม่เป็นคลิปเสียงจากกล้องหน้ารถคันหนึ่งหลังแตงโมเสียชีวิต พบการสนทนาระหว่าง 1 ในผู้ต้องหากับบุคคลภายนอก

เป็นการเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และความเป็นมาทั้งหมด ซึ่งจากข้อความดังกล่าวพบพฤติกรรมบางอย่าง ส่อเจตนาได้ว่า 1 ในผู้ต้องหาแก๊งสปีทโบ๊ท

มีเจตนาฆ่าแตงโม หวังผลประโยชน์ ดังนั้นตนและทนายความจะยื่นคำร้องต่อศาล จ.นนทบุรี ขอรื้อคดีขึ้นมาพิจารณาใหม่จากคดีประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เป็นคดีฆาตกรรม ส่วนการยื่นคำร้องต่อศาลเมื่อไหร่จะแจ้งให้สื่อมวลชนทราบอีกครั้ง