วันอาทิตย์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

วันที่ 1 กรกฎาคม 2566 พระวิระชัย เปืดใจ ทิ้งทรัพย์สินหมื่นล้าน บวช 15 ครั้ง ไม่สึกแล้ว เรามีความรู้สึกว่า อยู่ในผ้าเหลือง มีความสุขที่สุดแล้ว คำพูดนี้ ออกจากปากของพระวิระชัย เมตตาธีโร แห่งวัดพุทธะเมตตาบุญญานุภาพ อ.เถิน จ.ลำปาง

พระวิระชัย เมตตาธีโร ก็คือ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา อดีตบิ๊กตำรวจ ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ทั้งในหน้าที่การงานและธุรกิจ อย่างยากจะหาใครเทียบเทียมได้ แต่ก็พลาดหวังตำแหน่งสูงสุดของยุทธจักรสีกากี และมีปัญหาเป็นคดีในช่วงท้ายในชีวิตราชการตำรวจ

พระวิระชัยมีฉายาที่สื่อเรียกขานกัน คือ ตำรวจหมื่นล้าน เพราะธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือกของท่าน ทำเงินอู้ฟู่มหาศาล

แต่ตอนนี้ ชีวิตในยุทธจักรสีกากี และธุรกิจหมื่นล้าน ได้กลายเป็นอดีตไปหมดแล้ว เพราะท่านหันหน้าเข้าหาวัดอย่างมุ่งมั่นจริงจัง ถึงขนาดประกาศ จะบวชตลอดชีวิต ไม่สึกมาเป็นฆราวาสอีกต่อไป

พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา ผ่านการบวชเรียนซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้ง จนล่าสุด ก็เป็นครั้งที่ 15 แล้ว หรือเป็น ชายสามโบสถ์ คูณห้า กันเลยทีเดียว

คำเทศนาของท่าน ต่อหน้าพระธรรมทูต ได้ตีแผ่ความคิดจิตใจในวันนี้ของอดีต รองผบ.ตร.คนดัง ว่าเขาหันหลังให้กับชีวิตเดิมๆ ของตัวเอง แบบ 180 องศา

มาดูตัวอย่างคำสอนของพระวิระชัย เมตตาธีโร กัน

ในเรื่องของธุรกิจ เมื่อเราตายไปแล้ว เอาอะไรไปไม่ได้เลย อ้าว แล้วเราเหนื่อยไปทำใหม่ ตอนนี้ก็ทำงานจนเกษียณแล้ว แล้วพอตายเอาอะไรไปไม่ได้เลยหรือ

ตอนแรกก็เข้าใจว่าการที่เราสร้างวัดไว้เยอะๆ วัดทรงเมตตาวนาราม ที่สัตหีบ วัดป่าพุทธทรงเมตตา ที่เชียงราย วัดทรงเมตตา ที่สุรินทร์ ก็คิดว่าน่าจะได้ขึ้นสวรรค์ หรือเป็นทาง นำไปสู่นิพพานได้

พอมาศึกษาตอนบวชครั้งที่ 15 ก็ได้เห็นว่าสิ่งที่เราทำไป มันแค่การบริจาคทาน ได้แค่ละความโลภ แต่มันไม่สิ้นเหตุแห่งการเกิดได้ การจะสิ้นแห่งการเกิดได้ ต้องเจริญภาวนา

หลวงพ่อต้องตื่นแต่ตีสาม สวดมนต์ ปฏิบัติยันถึง 4 ทุ่ม ถึงจะได้จำวัด วันนึงได้นอนประมาณซัก 3-4 ชั่วโมงเอง และในช่วงชั่วโมงนั้น จะมีพักเบรกแค่ 5 นาที และจะมีการกรวดน้ำ อุทิศส่วนกุศลทุกชั่วโมง

หลวงพ่อมาสอบอารมณ์ วันนึง 4 รอบ จึงเป็นการฝึกปฏิบัติและเรียนที่เข้มมาก

ก่อนหน้านี้ ผมบวชมาแล้ว 14 ครั้ง แต่ละครั้ง ก็ไปปฏิบัติกับครูอาจารย์ที่เป็นนักปฏิบัติชั้นนำของประเทศทั้งนั้นเลย แต่การปฏิบัติครั้งก่อนๆ นั้น มันมาติดขัดตรงที่เกิดความง่วง และแก้ไม่ได้ นอกจากนั้น ยังนั่งแล้วมึนหัว บ่าสองข้างปวดมาก ใต้สะบักปวดเหมือนใครเอาหอกมาแทง ก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร

มาเจอหลวงพ่อกิตติเชษฐ์ ท่านสอน ทำให้เรามีจิตรวมและตั้งมั่น ทำให้เราได้สติ ระหว่างนั้น หลวงพ่อก็จะถามว่า อยากกลับไปเป็นนักธุรกิจไหม ความรู้สึก เราไม่อยากไปเป็น ถามว่าอยากรวยไหม เราก็บอก ไม่อยากรวย ท่านก็ถามว่า อยากไปนิพพานไหม อยาก ถามว่าอยากสึกไหม ไม่อยากสึก

เรามีความรู้สึกว่าอยู่ในผ้าเหลือง มีความสุขแล้ว สุขกว่าอยู่ทางโลกเยอะเลย เพิ่งมาค้นพบอย่างถ่องแท้ว่า การบวชเป็นพระ และปฏิบัติธรรมตามแนวสติปัฏฐาน 4 เป็นช่วงชีวิตที่มีความสุขที่สุด ไม่ต้องดิ้นรนไปอยู่ในทางโลก

ยิ่งปฏิบัติทุกวัน ยิ่งสั่งสมอริยทรัพย์ ทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน การทำบุญด้วยทรัพย์สินเงินทองมากเพียงใดก็ตาม ก็ยังไม่ได้อานิสงส์ มากเท่ากับการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ที่จะทำให้เราพ้นทุกข์ได้

เมื่อผมพบอย่างนี้ ผมจึงคิดไม่สึก ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ขอบคุณที่มา@NEWS1VDO