จากกรณีเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา ครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัดสถานศึกษาในพื้นที่ 32 อำเภอของ จ.นครราชสีมา จำนวน 210 คน ประชุมกับเครือข่ายประชาชนแก้หนี้สินแห่งประเทศไทย และมีข้าราชการครูบำนาญรายหนึ่งให้ข่าวว่า ขณะนี้มีเพื่อนครูในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ประมาณ 2,300 คน อยู่ระหว่างถูกสถาบันการเงินยื่นฟ้องเป็นบุคคลล้มละลาย และอยู่ในฐานะผู้ค้ำประกัน ต้องชดใช้หนี้สินแทน
ล่าสุด วันนี้ นายบุญธรรม เดชบุญ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา จำกัด พร้อมด้วยผู้บริหารสหกรณ์ฯได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเพื่อชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว เพราะหลังจากที่มีข่าวออกไปสู่สาธารณะ ส่งผลทำให้มีสมาชิกของสหกรณ์ฯ แห่มาถอนเงินออกไปเป็นจำนวนมาก
นายบุญธรรม กล่าวว่า ข่าวที่ออกไปมีความคลาดเคลื่อน โดยขอชี้แจงว่า ในปี 2566 สหกรณ์ฯ เพิ่งฟ้องล้มละลายไปเพียงแค่ 2 รายเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนสมาชิกทั้งหมดที่มีอยู่กว่า 28,000 ราย โดยเหตุที่ฟ้องล้มละลาย 2 รายดังกล่าว ก็เป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย
รายแรกเป็นข้าราชการครูที่ถูกไล่ออก แล้วไม่สามารถชำระหนี้ได้ จึงมีการฟ้องกันมานานครบ 10 ปี และยังมีหนี้เกิน 1 ล้านบาท จึงได้ดำเนินการฟ้องล้มละลาย ส่วนอีกรายเป็นครูที่ไปค้ำประกันให้กับคนอื่นที่ถูกเจ้าหนี้รายอื่นฟ้องล้มละลายมา ซึ่งหลังจากที่ทางสหกรณ์ฯ ฟ้องล้มละลายไปแล้ว ทางสหกรณ์ฯ ก็ยังติดตามไปดูแลตามความเหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาชีวิตกับผู้ที่ถูกฟ้องล้มละลายตามมาในภายหลัง
ข่าวที่ออกไปทำให้เป็นสมาชิกสหกรณ์ฯ เกิดความวิตก และพากันมาถอนเงินจากสหกรณ์ฯ รวมกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งขอชี้แจงว่า ปัจจุบันสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา จำกัด มีสมาชิกอยู่กว่า 28,000 คน มีทุนอยู่กว่า 21,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นทุนเรือนหุ้นกว่า 18,420 ล้านบาท ทุนสำรองกว่า 2,157 ล้านบาท ทุนสะสมตามข้อบังคับกว่า 190 ล้านบาท และมีเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินอื่นประมาณ 6,880 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับทุนของสหกรณ์ฯ จะเห็นว่ามีความเข้มแข็งมากในระบบการเงิน
ทั้งนี้ สหกรณ์ฯ ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2562 ถึงปัจจุบัน ไดช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับสมาชิกได้จำนวน 364 ราย ใช้เงินในการแก้ไขปัญหาไปจำนวน 509 ล้านบาท ทำให้สมาชิกได้ประโยชน์ ไม่ถูกฟ้องดำเนินคดี ไม่ถูกอายัดคดี สมาชิกมีเงินได้รายเดือนเหลือเพิ่มขึ้น