นักเรียน ดิ่งดับ กลางโรงเรียนดังเมืองทุ่งสง ปม ครูบังคับตัดผม ไม่แก้ทรงต้องย้ายออก
จากกรณี นร. กระโดดเสาสัญญาณเสียชีวิตเมื่อกลางดึกวันอังคารที่ 6 มิ.ย. เช้าวันถัดมา มีคนพบสภาพร่างกายอยู่ในชุดพละ ร.ร. แห่งหนึ่งใน อ. ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช พ่อผู้เสียชีวิตระบุว่า ลูกถูกกดดันจากครูสั่งให้แก้ทรงผมถึง 3 รอบ หากไม่แก้ทรงผมก็ต้องย้าย ร.ร. โดยทางทวิตเตอร์ นักเรียนเลว ได้ออกมาเผยแพร่ข่าวสาร และได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า
หลังเกิดเหตุสลด ทาง ร.ร. ออกมาชี้แจงถึงกฎระเบียบทรงผมต่อสื่อมวลชนว่า ได้มีการทำข้อตกลงร่วมกันและให้นักเรียนมีส่วนร่วมด้วย อ้างไม่อยากให้ผู้ใหญ่-เด็กขัดแย้งกัน แต่เมื่อสอบถามไปยัง นร. ใน ร.ร. กลับพบว่า เอกสารร่างแก้ไขระเบียบทรงผมของสภานักเรียนที่มี นร. มาลงความเห็นถึง 1,354 คน ถูกปัดตกโดย ร.ร. โดยอ้างว่าผปค. ไม่เห็นด้วย
แหล่งข่าวระบุว่า ในที่ประชุมของ ผปค. มีการให้โหวตแบบยกมือเพื่อรับร่างการแก้ไขระเบียบทรงผม ซึ่ง ผปค. บางรายยังไม่ได้ยกมือ แต่ครูที่ดูแลตัดสินใจว่าทาง ผปค. เกิดร้อยละ 90 เห็นด้วยกับกฎนี้ ทำให้ร่างดังกล่าวถูกปัดตกไป แต่กลับออกมาชี้แจงว่าได้พูดคุยกับทางนักเรียนดีแล้ว
ในแฮชแท็กทวิตเตอร์ #อาณาจักรฟ้าขาว มีผู้ใช้บัญชีออกมาเปิดเผยภาพของผู้เสียชีวิตในวันศุกร์ที่ 2 มิ.ย. ท่าทางนั่งคุกเข่าอยู่ต่อหน้าครู แล้วถูกครูจับขยุ้มศรีษะ ด้านศิษย์เก่า-ผปค. ที่เห็นภาพดังกล่าวรู้สึกไม่สบายใจ ถามหาว่าโรงเรียนจะรับประกันได้อย่างไรว่าจะไม่มีเด็กคนไหนเป็นเหยื่อจากเรื่องเช่นนี้อีก พร้อมเร่งจี้ให้ ร.ร. ออกมาตอบคำถามของสังคมโดยด่วน แม้ทางครอบครัวจะไม่แจ้งคดีความ แต่ยังต้องการคำตอบที่ชัดเจนจากทาง ร.ร. เช่นเดียวกับทางกลุ่มศิษย์ปัจจุบัน ที่ออกมาเรียกร้องในสังคมออนไลน์ถึงความเป็นธรรมที่หล่นหายไป
จากกรณีเพื่อนของพวกเขา เพราะหากยังไม่แก้ไข เรื่องราวน่าสลดเช่นนี้ก็จะยังเกิดขึ้นได้อีกในสังคมไทย ทางด้านผู้ใช้ทวิตเตอร์หลายราย ก็ได้เข้ามาแสดงความเห็นต่อเรื่องเศร้าที่เกิดขึ้น อาทิ เอาผิดให้ออกจากราชการดำเนินคดีอาญาครูเหล่านี้ / ระเบียบวินัยที่เกิดขึ้นเพื่อบังคับและถูกใช้ภายใต้อคติของผู้มีอำนาจ เมื่อเกิดการถกเถียงต่อต้าน จึงหลุดกรอบเอาความรุนแรงเข้ามาใส่เป็นตัวเร่งให้ทำตามระเบียบโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง และมักจบลงด้วยความสูญเสีย ที่คนกดดันแม่งก็ไม่เคยสำเหนียกกับสิ่งเลวร้ายที่ทำ โดยมักอ้างความดีไม่มีเปลี่ยน